ราคา HONDA CITY e : HEV ปี 2021 ++@@
HONDA เป็นตัว CITY e : HEV RS เป็นครั้งแรกที่ HONDA ได้นำเทคโนโลยีเครื่องยนต์ลูกผสมแบบ Hybrid มาอยู่ใน city car ที่สามารถให้แรงบิดสูงสุดที่ 253 นิวตัน-เมตร พร้อมอัตราการประหยัด ที่ 27.8 กม./ลิตร ในราคาค่าตัว 839,000 บาท
ซึ่งทำให้ CITY e : HEV RS กลายเป็น city car คันแรกที่มีเทคโนโลยี เครื่องยนต์ลูกผสมแบบ Hybrid นี้ พร้อมกันนั้นทาง ใน CITY e : HEV ยังมีเทคโนโลยี Honda SENSING ติดตั้งอยู่ด้วยเพื่อความปลอดภัยในการขับขี่ ที่ยกระดับไป เหมือนรุ่นใหญ่อย่าง HONDA accord เป็นเอกลักษณ์ต้นกำลังขับเคลื่อน ที่โดดเด่น ในกลุ่มรถ city car
ภายนอก ของ CITY e : HEV RS มีมิติ ตัวรถ เท่ากับ City RS เครื่องยนต์ 1,000 ซีซี เทอร์โบ แต่จะมีน้ำหนัก มากกว่า 62 กก. จาก แบตเตอรี่ลิเทียม ส่วนภายนอกที่แตกต่างออกไป เริ่มที่ด้านหน้าตั้งแต่ กระจังหน้าแบบสปอร์ท Gloss Black พร้อม Blue H-mark มีความสปอร์ทขึ้น
ด้านข้างเสริมด้วย ล้ออัลลอย ขนาด 16 นิ้ว ลายใหม่ พร้อมระบบดิสเบรกทั้ง 4 ล้อ
ส่วนด้านท้ายโดดเด่นด้วยสปอยเลอร์หลังแบบ Gloss Black พร้อมสัญลักษณ์ ที่บอกความเป็นสปอร์ทที่มาพร้อมความประหยัด e: HEV RS
ภายใน แบบสปอร์ทเหมือน City RS ในโทนสีดำ เบาะดำตัดด้วยด้ายสีแดงใช้วัสดุ ผสมระหว่างหนังกับผ้า
โดดเด่นขึ้นด้วย มาตรวัดระบบดิจิตอลที่สามารถแสดงข้อมูลการขับขี่ต่าง ๆ ได้อย่างชัดเจนผ่านจอ TFT 7 นิ้ว พวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน
จอกลางเป็นแบบสัมผัส ขนาด 8 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay รองรับการเชื่อมต่อ Smartphone และระบบสั่งการด้วยเสียง ระบบเชื่อมต้อ Honda Connect ลำโพง 8 จุด
ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติที่เพิ่มช่อง สำหรับผู้โดยสารตอนหลังพร้อมพอร์ท USB 2 จุด
ด้านล่างมาอีกเป็นระบบเบรกมือไฟฟ้า ที่ให้ความมั่นใจเมื่อจอดทุกครั้ง
เครื่องยนต์ ลูกผสมแบบ Hybrid ที่ใช้เครื่องยนต์ขนาด 1,500 ซีซี 4 สูบ i-VTEC ให้กำลัง 98 แรงม้าที่ 5,600-6,400 รอบ/นาที แรงบิด 127 นิวตัน-เมตรที่4,500-5,000 รอบ/นาที กับมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัวที่ให้กำลัง 109 แรงม้า ที่3,500-8,000 รอบ/นาที แรงบิด 253 นิวตันเมตรที่ 0-3,000 รอบ/นาที รับพลังงานจากแบตเตอรี่ ลิเธียม-ไอออน
เครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้าจะทำงานตามความเร็วของรถ โดยความเร็วออกตัว 0-60 กม./ชม.ล้อจะรับกำลังจากมอเตอร์ไฟฟ้า ส่วนที่ความเร็ว 60 กม./ชม.ขึ้นไปจะทำงานร่วมกัน หรือตัดสลับกับตามระบบ และถ้าลดความเร็วระบบจะเป็นพลังงานไปชาร์จกลับสู่แบตเตอร์รี่ อัตราการประหยัดน้ำมัน ที่ 27.8 กม./ลิตร ใช้เชื้อเพลิง E20
ระบบความปลอดภัย มีมาให้เต็มที่เหมือนตัว city RS และโดยที่เหนือกว่าก็คือมีเทคโนโลยี Honda SENSING มาให้ด้วยซึ่ง ระบบความปลอดภัยที่มีอยู่แล้ว อาทิ
– ระบบแสดงภาพมุมอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน
– ระบบล็อกรถอัตโนมัติเมื่อกุญแจอยู่ห่างตัวรถ
– ระบบกล้องมองภาพด้านหลัง ที่สามารถปรับมุมได้ 3 ระดับ
– ถุงลมนิรภัย คู่หน้า ด้านข้าง และม่านนิรภัย
– ระบบป้องกันล้อล็อก และกระจายแรงเบรก ABS EBD
– ระบบช่วยควบคุมการเข้าโค้ง VSA
– ระบบช่วยการออกตัวทางลาดชัน HAS
– ระบบ เบรกมือไฟฟ้า
เทคโนโลยี Honda SENSING
-ระบบเตือนการชนพร้อมระบบช่วยเบรก CMBS
-ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในทางเดินรถ LKAS
-ระบบเตือนและช่วยควบคุมเมื่อรถออกนอกเลน RDM with LDW
-ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ AHB
-ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน ACC
ความโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์เฉพาะ ของ HONDA CITY e : HEV ที่ชัดเจน ที่มีเทคโนโลยี มีให้มากกว่าใน city RS
โดยเทคโนโลยีที่แตกต่าง ตั้งแต่
เครื่องยนต์ ที่เป็นแบบ Hybrid ให้อัตราเร่งสูง จัดจานสามารถตอบสนองได้ดีกว่า แถมยังให้ความประหยัดน้ำมัน ที่ 27.8 กม./ลิตร และสามารถ ใช้เชื้อเพลิง E20 ได้
ภายใน คอนโซนเป็นหน้ามาตรวัดดิจิตอล ที่สามารถบอกข้อมูลการขับขี่ในรูปแบบต่าง ๆ และการทำงานของระบบขับเคลื่อน Hybrid พร้อมระดับพลังงานในแบตเตอรี่ ระบบปรับอากาศได้เพิ่มช่องอากาศไปยัง ผู้โดยสารตอนหลังและ ยังมี USB ให้ 2 จุดเพิ่มความสะดวกมากขึ้น พร้อมระบบเบรกมือไฟฟ้า
ภายนอก เป็นเอกลักษณ์เฉพาะรุ่น CITY e : HEV RS กระจังหน้าแบบสปอร์ท Gloss Black พร้อม Blue H-mark ด้านข้างเสริมด้วย ล้ออัลลอย ขนาด 16 นิ้ว ลายใหม่ พร้อมระบบดิสเบรกทั้ง 4 ล้อ ส่วนด้านท้ายโดดเด่นด้วยสปอยเลอร์หลังแบบ Gloss Black พร้อมสัญลักษณ์ ที่บอกความเป็นสปอร์ทที่มาพร้อมความประหยัด e: HEV RS
ระบบความปลอดภัย ที่มี เทคโนโลยี Honda SENSING ทำให้การขับขี่มีความมั่นใจยิ่งขึ้น
ซึ่ง เอกลักษณ์ที่โดยเด่นเฉพาะตัวของ CITY e : HEV RS นี้ก็มากับราคาที่สูงกว่า รุ่น city RS อยู่ประมาณ 100,000 บาท แต่ด้วยเทคโนโลยีใหม่ และระบบความปลอดภัยที่มากกว่า บวกกันกับอัตราเร่งที่มาพร้อมกับความประหยัด ก็ถือว่าเหมาะสมเลยที่เดียว ก็เป็นตัวเลือกหนึ่ง ที่ถ้าจะตัดสินในใน city car ที่มีเทคโนโลยีใหม่ พร้อมความปลอดภัยแบบมาครบก็ต้องพิจารณา CITY e : HEV RS มาในลำดับต้น ๆ ก่อน
ในค่าตัว ในราคาค่าตัว 839,000 บาท
พร้อมสีให้เลือก 5 สี
1.น้ำเงินออบซิเดียน(มุก)
2.แดงอิกไนต์(เมทัลลิก)
3.ขาวแพลทินัม(มุก)
4.ดำคริสตัล(มุก)
5.เงินลูนาร์(เมทัลลิก)
