บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย เปิดตัว ALL NEW COMMUTER

“ขับความปลอดภัย นั่งสบายทุกเส้นทาง”
เมื่อวันที่ 11 มิถุนายน 2562 บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย ได้จัดงานเปิดตัว ALL NEW COMMUTER อย่างเป็นทางการ ออกแบบโดยเน้นความปลอดภัยสูงสุด พร้อมระบบมาตรฐานความปลอดภัยที่ครบครัน กับความสะดวกสบายที่มากยิ่งขึ้น
COMMUTER เป็นรถในกลุ่มตระกูลไฮเอซ เข้าสู่ตลาดเมืองไทยในปีพ.ศ. 2548 ทั้งโครงสร้างตัวถัง รูปแบบของรถได้นำเข้ามาจากประเทศญี่ปุ่น โดยได้รับการตอบสนองที่ดีมากจากกลุ่มลูกค้าที่หลากหลายในประเทศไทย ทั้งกลุ่มลูกค้าที่ใช้เป็นรถรับส่งส่วนตัวเป็นรถยนต์อเนกประสงค์ หรือใช้ในกิจการต่างๆ เช่น เป็นรถรับ-ส่ง สำหรับการเดินทางข้ามจังหวัด,ข้ามอำเภอ และรับ-ส่งพนักงานของบริษัท หรือใช้ในกิจการท่องเที่ยว เป็นต้น COMMUTER เป็นรถที่ได้รับความนิยมจาก คุณภาพและความทนทาน จึงสร้างความน่าเชื่อถือแก่ลูกค้า ทำให้ได้รับการตอบรับที่ดีและได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าตลอดมา
ภายนอก ออกแบบให้มีระดับ หรูขึ้นเหมือนในรถยนต์นั่งส่วนบุคคล รุ่น Vellfire และ Alphard
ด้านหน้า เป็นกระจังหน้า 2 ชั้นตัดด้วยแถบกันชน ไฟหน้าเป็นแบบมัลติรีเฟล็กเตอร์ พร้อมไฟตัดหมอก LED กระจกมองข้างปรับไฟฟ้าสีเดียวกับตัวรถพร้อมไฟเลี้ยว
ด้านข้าง ประตูสไลด์ สำหรับผู้โดยสารอยู่ด้านซ้ายของตัวรถ ให้การขึ้นลงที่สะดวก
ด้านหลัง ออกแบบให้ดูเรียบมาพร้อมกับกระจกมองหลังสีดำ พร้อมที่ปัดน้ำฝน ที่ใช้งานง่าย
มิติและขนาด
มิติภายนอก – ย.5,915 x ก.1,950 x ส. 2,280 (มม.)
ความยาวช่วงล้อ -3,860 (มม.)
ภายใน ออกแบบให้วิสัยทัศน์ที่กว้างขึ้นและคอนโซลดีไซน์ใหม่ที่มาพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ภายในสีทูโทน ขาว-ดำ เบาะผ้าอย่างดี พวงมาลัยสีดำยูรีเธน ปรับระดับสูง-ต่ำ และเข้า-ออก ได้ มีจอแสดงข้อมูลการขับขี่ (MID) พร้อมแสดงการทำงานของระบบ Eco และช่องจ่ายกระแสไฟฟ้า 12 โวลต์
เครื่องยนต์ ปรับปรุงใหม่เป็น รุ่น 1GD-FTV 4 สูบ แถวเรียง DOHC 16 วาล์ว เทอร์โบแปรผัน อินเตอร์คูลเลอร์ ความจุกระบอกสูบ 2,755 CC. อัตราส่วนกำลังอัด 15.6 : 1 จ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงด้วยหัวฉีดไดเร็คอินเจคชั่น แบบคอมมอนเรล
ให้กำลังสูงสุดที่ 163 แรงม้า ที่ 3,600 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 420 นิวตัน-เมตร ที่ 1,600 – 2,200 รอบต่อนาที
ALL NEW COMMUTER รุ่นล่าสุดยังจุดเด่นที่ Toyota อยากนำเสนอ เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า
ที่ได้รับการพัฒนาทั้งด้าน “คุณภาพ” (Quality) “ความทนทาน” (Durability) “ความน่าเชื่อถือ” (Reliability) อาทิ
– การออกแบบตัวรถในแบบเซมิ-บอนเน็ต (Semi-Bonnet) การจัดวางอุปกรณ์ภายในต่างๆรวมถึงการเพิ่มวัสดุซับเสียงลดเสียงรบกวนจากภายนอกทำให้ภายในห้องโดยสารเงียบ
– ช่วงล่างด้านหน้าแบบแมคเฟอร์สันสตรัท (Macpherson Strut) ส่วนด้านหลังแบบแหนบพร้อมโช้กอัพ รอบรับทุกสภาพถนนให้การควบคุมรถที่ดี มีความนุ่มนวลและความคล่องตัวสูง
-มุมเลี้ยวแคบลง ให้การขับขี่มีความคล่องตัว ไม่ว่าในขณะกลับรถ หรือการถอยจอด
– ออกแบบให้เครื่องยนต์วางหน้า พร้อมคานเหล็กกันชน ที่ช่วยดูดซับแรงกระแทก
– ถุงลมเสริมความปลอดภัย 2 จุด คนขับและผู้โดยสารด้านหน้า
– เสริมระบบความปลอดภัยครบครันเพื่อให้ความมั่นใจตลอดการเดินทาง
ระบบป้องกันล้อล็อก ABS
ระบบควบคุมการทรงตัว VSC
ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี TRC
ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน HAC
ทำให้การเดินทางทุกครั้งสามารถไว้วางใจได้อย่างดีเยี่ยม
– เครื่องยนต์ ปรับใหม่ให้มีกำลังสูงสุดและแรงบิดสูงสุดดีขึ้นแต่ยังคง ประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง รองรับการใช้น้ำมันไบโอดีเซล บี20 เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม พร้อมขับเคลื่อนด้วยระบบส่งกำลังแบบอัตโนมัติ 6 สปีด และระบบส่งกำลังแบบธรรมดา 6 สปีด เพื่อความมั่นใจในการขับขี่สูงสุด
ALL NEW COMMUTER มี 4 รุ่น คือ
-ALL NEW COMMUTER 2.8 ลิตร เกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด 1,299,000 บาท
-ALL NEW COMMUTER 2.8 ลิตร เกียร์ธรรมดา 6 สปีด 1,269,000 บาท
รถตู้ ไฮเอซ GL หลังคาเตี้ย 2.8 ลิตร เกียร์ธรรมดา 6 สปีด 1,079,000 บาท
รถตู้ ไฮเอซ Eco ตู้ทึบ 2.8 ลิตร เกียร์ธรรมดา 6 สปีด (มีเฉพาะสีขาว) 999,000 บาท
โดยมี 2 สีให้เลือก
– สีขาว – White
-สีเงินเมทัลลิค – Silver Mica Metallic
(สีเงินเมทัลลิค ราคาเพิ่ม 6,000 บาท)
สามารถพบกับ ALL NEW COMMUTER รถตู้อเนกประสงค์ที่ใช้งานได้หลากหลาย ตอบโจทย์ทุกการใช้งาน
ได้ที่โชว์รูมผู้แทนจำหน่ายโตโยต้าทั่วประเทศ
ตั้งแต่วันที่ 15 มิถุนายนเป็นต้นไป